เปิดตัว Xpeng Mona M03 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยทางค่าย Xpeng ได้เปิดตัวรถแฮทช์แบ็กไฟฟ้า100% ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า “Mona M03” อย่างเป็นทางการ สำหรับการสั่งจองล่วงหน้าด้วยราคาค่าจองที่ 99 หยวน หรือประมาณราวๆ 485 บาทเท่านั้น โดยค่าจองจะนำไปหักในส่วนลด 3,000 หยวน เหลือเพียง 2,901 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณราวๆ 14,247 บาท เป็นส่วนลดจากยอดซื้อสุทธิ สำหรับราคาค่าตัวนั้นคาดว่า จะต่ำกว่า 200,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 9.8 แสนบาท โดยแบรนด์ Mona เป็นซีรี่ส์ใหม่ภายใต้การดูแลของทางค่าย Xpeng ซึ่งย่อมาจาก “Made Of New AI” หมายถึง เน้นการขับขี่อย่างอัจฉริยะ
โดย He Xiaopeng ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Xpeng ได้กล่าวว่าจะเริ่มทำการผลิตจริงภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยการออกแบบภายนอกของตัวรถ Xpeng Mona 03 นั้นประตูท้ายจะเป็นแบบไฟฟ้า และค่าสัมประสิทธิ์ในการลากอยู่ที่ 0.194Cd โดย Xpeng เคลมว่ารถมีการออกแบบการเพิ่มประสิทธิภาพในการลากถึง 15 แบบ ด้วยกัน
ที่เก็บสัมภาระท้ายรถมีความจุ 621 ลิตร สามารถจุกระเป๋าเดินทางขนาด 28 นิ้วได้ 1 ใบ + กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้ว 4 ใบได้อย่างสบาย ๆ
ทั้งไฟหน้าและไฟท้ายมีดีไซน์แบบ “010” โดยไฟแต่ละดวงประกอบด้วยไฟแบบ LED จำนวน 300 ดวงด้วยกัน โดยทาง Xpeng ได้เคลมว่าด้านหน้าของตัวรถนั้นสามารถ “ระบายอากาศได้” และสามารถรับอากาศเข้าได้โดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ตามหลักอากาศพลศาสตร์และมีระบบระบายความร้อนให้กับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ
หลังคาเป็นกระจกซันรูฟแบบพาโนรามาขนาด 1.22 ตารางเมตร สามารถป้องกันแสงรังสีอัลตราไวโอเลตได้ที่ 99.9% มีอัตราการแยกแสงอินฟราเรดได้ถึง 97.6% และการส่งผ่านแสงที่มองเห็นได้ที่ <3%
รถใช้ขอบล้อขนาด 18 นิ้วเป็นแบบมาตรฐานในทุกรุ่น นอกจากนี้ยังมีขอบล้อแบบสปอร์ตขนาด 19 นิ้วมาให้เลือกใช้อีกด้วย
ตัวรถมีทั้งหมดด้วยกัน 5 สี สำหรับมิติตัวรถความยาว ความกว้าง ความสูงอยู่ที่ 4780/1896/1445 มิลลิเมตร โดยมีระยะฐานล้อที่ 2815 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัวรถ ได้แก่ 1,661 ,1,631 และ 1,739 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์มากกว่า 20 ตำแหน่ง กระจายทั่วทั้งรถเพื่อรองรับความสามารถในการช่วยเหลือการขับขี่อัจริยะขั้นสูง
สีภายในมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Morning Mist Grey, Noon Blue และ Night Grey การออกแบบภายในห้องโดยสารเป็นสไตส์เรียบง่าย หรูหรา มีหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมด้วยพวงมาลัยรูปตัว D และมีช่องชิพเซ็ตประมวลผลในรถยนต์ของ Qualcomm Snapdragon 8155 และใช้ระบบปฏิบัติการแบบ 16GB เป็นฟังก์ชันการทำงานของรถซีรี่ส์นี้
ฟังก์ชันการทำงานเพิ่มเติม ได้แก่ ไฟส่องสว่างแอมเบี้ยนไลท์โดยรอบจำนวน 256 สี, ลำโพง 18 ตำแหน่ง, ระบบสั่งงานด้วยเสียง AI, การชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย, การอัปเดต OTA, การเข้ารถแบบไม่ใช้กุญแจ, สามารถใช้โทรศัพท์มือถือแทนรีโมทคอนโทรล, รองรับเครือข่าย WiFi/4G ภายในรถยนต์ และฟังก์ชันการจองการชาร์จ เป็นต้น
สำหรับในรุ่นเริ่มต้นให้พลังงานมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 140 กิโลวัตต์ (188 แรงม้า) ในขณะที่รุ่นท็อปให้พลังงานมอเตอร์ไฟฟ้า 160 กิโลวัตต์ (215 แรงม้า) แบตเตอรี่เป็นแบบ Blade ผลิตโดย FinDreams Battery ของทางค่าย BYD ซึ่งมีให้เลือก 2 ความจุ คือ 51.8 kWh และ 62.2 kWh โดยมีระยะในการวิ่งตามมาตราฐาน CLTC ที่ 515 – 620 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ ให้ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 155 กม./ชม.
ที่มา: carnewschina.com
