ข้อมูลล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ของ GAC Aion ว่าโรงงานของบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของทางค่ายในประเทศไทยใกล้จะเสร็จแล้วในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ และในขณะเดียวกัน Aion V เวอร์ชันที่ 2 ก็กำลังจะเปิดตัวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ต้องรอการประกาศอย่างชัดเจนอีกครั้ง แต่คิดว่าคงไม่นานเกินรอ
Breaking ground at the Thai factory earlier this year
รายงานก่อนหน้านี้ระบุว่า Aion Y Plus จะเป็นรุ่นแรกที่ผลิตที่โรงงานในไทยซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ตามโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อยกระดับการพัฒนาประเทศไปสู่ยุค “ไทยแลนด์4.0” โดยทาง GAC Aion ได้ประกาศแผนการสร้างโรงงานแห่งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และเริ่มต้นดำเนินการเมื่อวันที่ 26 มกราคมปีนี้ กำหนดแล้วเสร็จปลายเดือนนี้ถือเป็นเฟสแรกของโรงงาน 2 เฟส การลงทุนในโรงงานนี้มีมูลค่ารวมสูงสุดถึง 2.3 พันล้านบาท โดยมีกำลังการผลิตรถยนต์มากกว่า 50,000 คัน โดยจะเป็นโรงงานแห่งแรกของค่าย GAC ที่ผลิตนอกประเทศจีน และจะผลิตรถยนต์รุ่นพวงมาลัยขวาเพื่อรองรับการเป็นสินค้าส่งออกต่อไป เมื่อพิจารณาจากการลงทุนและสภาพพื้นที่ของโรงงานแล้ว เหมาะที่จะเป็นรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทย ไม่ว่าอะไหล่ที่นำมาประกอบจะเป็นอะไหล่นำเข้าหรืออะไหล่ที่ผลิตในประเทศก็ตาม ก็ถือว่าเป็นรถ CKD (Completely Knocked Down ) เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นรถตลาดทั่วไป อย่าง Toyota, Honda เป็นต้น
โรงงานแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนของ Aion ซึ่งกำหนดให้ทั้งการผลิตและการขายจำนวน 1 ล้านคันในปี 2568 ที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทางค่าย Aion ได้นำผลิตภัณฑ์รถยนต์ มาจัดแสดงถึง 5 รุ่นด้วยกันและทางค่ายยังได้ทำข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดจำหน่ายรถยนต์ EV ให้กับกลุ่มตัวแทนจำหน่ายในไทยและได้ระบุศูนย์การขายที่เป็นไปได้จำนวน 34 แห่งทั่วประเทศไทยอีกด้วย ทางค่าย Aion ยังรุกตลาดอย่างหนักมุ่งเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายแห่ง และกำลังสร้างโรงงานในอินโดนีเซียอีกด้วย
ข่าวมีรายงานว่าจะเปิดตัว Aion V เจเนอเรชั่นที่ 2 ในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ซึ่งถือว่าเป็นรถยนต์ GAC Aion รุ่นแรกที่ได้รับการออกแบบโดยตั้งใจให้เป็นรุ่นระดับโลก ซึ่งหมายความว่าถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นเปิดตัวสำหรับโรงงานในไทยและอินโดนีเซียก็ตาม แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะผลิตหลังจากนั้นในโรงงานอย่างแน่นอน
ราคาในประเทศจีนเริ่มต้นที่ประมาณ 149,800 หยวน หรือประมาณราวๆ (758,917 บาท) และมีมิติตัวรถขนาดความยาว ความกว้าง ความสูงที่ 4,605/ 1854/1,660 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อที่ 2,775 มิลลิเมตร ผู้ซื้อสามารถเลือกมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 และ 165 กิโลวัตต์ ได้ แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความจุของแบตเตอรี่ออกมาในขณะนี้ แต่ก็ทราบมาว่าสามารถวิ่งได้ไกลถึง 750 กิโลเมตร โดยแพลตฟอร์มนี้ใช้ไฟ 400V ซึ่งใช้ซิลิกอนคาร์ไบด์เป็นครั้งแรก ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตแบบชาร์จเร็ว 3C เทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้เวลาในการชาร์จสั้นลง 60% ซึ่งหมายความว่าสามารถวิ่งได้ระยะทาง 370 กิโลเมตร ในเวลา 15 นาที รถยนต์ Aion V อยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัลไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP ที่พัฒนาใหม่ ของทางค่าย Aion
มีช่องเก็บสัมภาระที่คอนโซลกลางมีพื้นที่ 6.6 ลิตรและยังมีโหมดระบบอุ่น ระบบความเย็น และแช่แข็งได้โดยมีอุณหภูมิตั้งแต่ -15°C สำหรับแช่แข็งจนถึง 50°C กันเลยทีเดียว ทางค่ายได้ให้ข้อมูลการใช้พลังงานอยู่ที่ 0.5 kWh ต่อวัน เบาะนั่งสามารถพับลงเป็นเตียงได้ และมีซันรูฟแบบพาโนรามาขนาด 2.14 ตารางเมตร
รุ่นท็อปจะมาพร้อมกับระบบการช่วยเหลือในการขับขี่ในระดับสูงผ่านชิป Nvidia Orin X ซึ่งทำให้รองรับข้อมูลจาก Lidar ที่มีความเร็วสูงได้ เรดาร์ความยาวคลื่นระดับ 5 มิลลิเมตร และกล้องทั่วรถจำนวน 11 ตัว โดยจะติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติพื่อช่วยป้องกันในการขับขี่ด้วยระบบ (NDA) ทั้งในเขตเมืองและบนทางหลวงอีกด้วย
ถือได้ว่าเป็นข่าวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับลูกค้าชาวไทย ในการที่ทางค่าย Aion ได้ใช้พื้นที่ในประเทศไทยเพื่อทำการผลิตและจำหน่ายสินค้าให้ครั้งนี้ โดยมุ่งเน้นพัฒนาในพื้นที่ 3 จังหวัดในประเทศไทย ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นการยกระดับสินค้าให้เป็นสินค้าส่งออกในระดับสากลต่อไป
ที่มา: carnewschina.com
