เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว BYD Seal 06 DM-i ที่เมืองซีอาน ประเทศจีน ซึ่งเป็นการเปิดตัวระบบที่ใช้ในรถยนต์แบบใหม่ ภายใต้รหัส DM รุ่นที่ 5 ของทางค่าย BYD นอกจากนี้ในงานยังได้เปิดตัว Qin L DM-i ซึ่งเป็นรถแฝดของ Seal 06 และใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน Seal 06 มีทั้งหมด 5 รุ่น มีราคาตั้งแต่ 99,800 – 139,800 หยวน หรือราคาประมาณราวๆ 504,361 – 706,636 บาท
รายละเอียดทั้งหมด 5 รุ่นของ Seal 06 มีดังต่อไปนี้
DM-i Deluxe วิ่ง 80km ราคา 99,800 หยวน หรือราคาประมาณ ( 504,361 บาท )
DM-i Prestige วิ่ง 80km ราคา 109,800 หยวน หรือราคาประมาณ ( 555,421 บาท )
DM-i Prestige วิ่ง 120km ราคา 119,800 หยวน หรือราคาประมาณ ( 606,006 บาท )
DM-i Premium วิ่ง 120km ราคา 129,800 หยวน หรือราคาประมาณ ( 656,591 บาท )
DM-i Flagship วิ่ง 120km ราคา 139,800 หยวน หรือราคาประมาณ ( 706,636 บาท )
แม้ว่ารถจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับ Qin L แต่ก็ยังคงเป็นการออกแบบให้อยู่ในซีรีส์ของ BYD Ocean และรูปลักษณ์ภายนอกมีพื้นฐานมาจาก Seal ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 โดย Seal 06 ออกแบบกระจังหน้าแบบปิดมีช่องระบายอากาศดีไซน์ให้ต่ำลงดูทันสมัย ที่จับประตูเป็นแบบกึ่งซ่อน ด้านหลังมีไฟท้ายแบบทะลุบนฝากระโปรงหลัง โลโก้ BYD ที่ด้านหลังจะมีแสงสว่างในเวลากลางคืน ขนาดมิติตัวรถที่ 4830/1875 / 1495 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,790 มิลลิเมตร Seal 06 มีระบบกันสะเทือนแบบ MacPherson ที่ด้านหน้า และระบบกันสะเทือนอิสระแบบสี่ลิงค์ E-type ใหม่ที่ด้านหลัง
ภายในตัวรถมีรูปลักษณ์คงสไตส์ซีรีย์แบบ Ocean Series ทั่วไป เช่น แผงหน้าปัดและประตู มีหน้าจออินโฟเทนเมนต์ส่วนกลางแบบหมุนได้ขนาด 15.6 นิ้ว และหน้าจอแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้ว รถยนต์มาพร้อมกับถุงลมนิรภัย 6 ใบ ฯลฯ กุญแจ NFC ของโทรศัพท์มือถือ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบควบคุมหน้าต่างด้านคนขับด้วยสัมผัสเดียว ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง และลำโพงอย่างน้อย 6 ตำแหน่ง
รุ่นตัวท็อปจะเพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เช่น ซันรูฟแบบพาโนรามา ระบบช่วยเหลือการขับขี่ DiPilot L2 เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้า กล้องติดรถยนต์ ล้อขนาด 18 นิ้ว ระบบเสียงลำโพง 8 ตำแหน่ง และระบบระบายอากาศเบาะนั่งแบบอุ่น เพิ่มมาให้ด้วย
Qin L และ Seal 06 DM-i เป็นรถยนต์เปิดตัวระบบใหม่ DM รุ่นที่ 5 ของทางค่าย BYD ซึ่งเป็นระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 99 แรงม้า และแรงบิด 126 นิวตันเมตร โดยในรุ่นสเปคน้อยกว่าสามารถวิ่งได้ 80 กม. ตามมาตราฐาน (CLTC) และใช้แบตเตอรี่ 10.08 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 120 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิด 210 นิวตันเมตร รุ่นที่มีสเปคสูงกว่าจะได้รับแบตเตอรี่ 15.874 kWh ตามมาตราฐาน CLTC สามารถวิ่งได้ 120 กม. นอกจากนี้ยังใช้มอเตอร์ EHS160 ที่ทรงพลังกว่า 160 kW ซึ่งมีแรงบิด 260 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 2.9 ลิตร/100 กม. ในโหมด NEDC และ 10.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. ในโหมด CLTC
ที่มา : carnewschina.com
