เปิดตัวสำหรับ GAC Aion RT ไปเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเจ้ารถยนต์คันนี้มาในขุมพลังไฟฟ้า100% โดยมีด้วยกัน 5 รุ่นย่อย สำหรับการส่งมอบนั้นจะตามมาทันทีหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยรถคันนี้สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดกว่า 650 กิโลเมตร
รุ่นและราคาของ GAC Aion RT
-รุ่น Zhixiang Edition: วิ่งได้ 520 กิโลเมตร ราคาประมาณราวๆ (5.7 แสนบาท)
-รุ่น Zhihao Edition: วิ่งได้ 520 กิโลเมตร ราคาประมาณราวๆ (6.03 แสนบาท)
-รุ่น Zhihao Edition: วิ่งได้ 650 กิโลเมตร ราคาประมาณราวๆ (6.50 แสนบาท)
-รุ่น LiDAR Edition: วิ่งได้ 520 กิโลเมตร ราคาประมาณราวๆ (7.46 แสนบาท)
-รุ่น LiDAR Edition: วิ่งได้ 650 กิโลเมตร ราคาประมาณราวๆ (7.94 แสนบาท)
GAC Aion RT ใช้แนวคิดในการออกแบบ คือ “Velociraptor” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิลอซิแรปเตอร์เป็นการออกล่าเป็นกลุ่มเหมือนหมาป่านั่นเอง โดยมีค่าสัมประสิทธิ์การลากอยู่ที่ 0.208Cd และมีสีภายนอกให้เลือก 7 สี ด้วยกันได้แก่ สีม่วง สีเบจ สีดำ สีขาว สีเงิน สีเทา และสีแดง ขนาดตัวถังอยู่ที่ 4865/1875/1520 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2775 มิลลิเมตร
ในแง่ของการขับขี่ในรุ่น Zhihao Edition ในระยะทาง 520 – 650 กิโลเมตร จะมีระบบอัจฉริยะ LiDAR ที่มีเซ็นเซอร์กว่า 27 ตำแหน่งติดตั้งมาให้รวมถึงระบบ LiDAR แบบโฟกัสแปรผัน 126 ตำแหน่ง ซึ่งจับคู่กับชิป NVIDIA Orin-X เพื่อให้ได้ความสามารถในการช่วยเหลือในการขับขี่ระดัล L2++ ซึ่งรองรับการนำทางโดยไม่ต้องใช้แผนที่, การจอดรถในระยะไกล, การจอดรถที่จดค่าตำแหน่งในการจอด, การจอดรถในช่องทางฉุกเฉิน, การตรวจสอบจุดบอดของรถ, การเตือนเมื่อเปิดประตูรถ, การแจ้งเตือนการจราจรที่ด้านหลัง, การเตือนการชนด้านหลัง และการตรวจจับการหลุดมือของพวงมาลัย และอื่นๆ อีกมากมายเป็นต้น
อุปกรณ์ตกแต่งและฟังก์ชันต่างๆ ในรุ่น Zhihao Edition ในระยะทาง 520 – 650 กิโลเมตร จะได้รับการติดตั้งเรดาร์ในระยะคลื่นหนึ่งมิลลิเมตรและมาพร้อมกล้อง 5 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการจดจำค่าในการวิ่งได้แบบเรียลไทม์ ระบบเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ การจดจำป้ายจราจร การเตือนการออกนอกเลน และระบบการป้องกันการออกนอกเลน เป็นต้น
Aion RT สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP 3.0 ของทางค่าย GAC โดยใช้เทคโนโลยีซิลิคอนคาร์ไบด์ 400V และมีตัวเลือกพลังงานให้เลือก 2 แบบด้วยกัน ในรุ่น 520 Zhixiang, 520 Zhihao และรุ่น 520 LiDAR จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าที่มีกำลังสูงสุด 150 kW และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ควบคู่ไปกับชุดแบตเตอรี่ขนาดความจุที่ 55.1 kWh ซึ่งมีระยะการทางในการวิ่ง 520 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที และอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานโดยรวมอยู่ที่ 11.7 kWh/100 กิโลเมตร
สำหรับในรุ่น 650 Zhihao และ 650 LiDAR จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าที่มีกำลังสูงสุด 165 kW/240 นิวตันเมตร ควบคู่ไปกับชุดแบตเตอรี่ขนาดความจุที่ 68.1 kWh ซึ่งมีระยะการเดินทางในการวิ่ง 650 กิโลเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.7 วินาที และอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานโดยรวมอยู่ที่ 11.9 kWh/100 กิโลเมตร
ใช้ระบบการชาร์จเร็วแบบ 3C ภายในเวลา 18 นาที โดยชาร์จไฟฟ้าจาก 30% เป็น 80% นอกจากนี้ ในรุ่นระยะทาง 520 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟ 10 นาทีจะได้ระยะทาง 160 กิโลเมตร และในรุ่นระยะทาง 650 กิโลเมตร เมื่อชาร์จไฟ 10 นาที จะได้ระยะทาง 200 กิโลเมตร
การออกแบบภายในตกแต่งแบบเรียบง่าย โดยจะมีตัวเลือกเป็นสีเบจ/ดำ, น้ำตาล/ดำ และสีดำล้วน ทั้งซีรีส์ใช้หน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 14.6 นิ้ว และแผงหน้าปัด LCD ขนาด 8.8 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน คอนโซลกลางมาพร้อมช่องแอร์และแผงชาร์จไร้สาย เป็นต้น
สำหรับระบบปฏิบัติการของรถจะเป็นระบบนิเวศ ADiGO (การขับขี่อัจฉริยะและเชื่อมต่อถึงกัน) รุ่นล่าสุดของค่าย GAC ซึ่งประกอบด้วยระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ADiGO และระบบ ADiGO IoT มี ADiGO SENSE AI ระบบควบคุมด้วยเสียงอัจฉริยะ AI และระบบ Apple CarPlay/Huawei HiCar4.0/Carlink ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กับรุ่นที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน
สำหรับเบาะนั่งของผู้โดยสารตอนหน้าสามารถพับราบได้โดยเชื่อมต่อกับเบาะหลังได้ เปรียบเสมือนเป็น “เตียงขนาดใหญ่” และรถในซีรีส์นี้ทั้งหมดจะมาพร้อมเบาะที่มีระบบระบายอากาศและระบบอุ่น ในขณะเดียวกัน หลังคากระจกชันรูฟก็มีการออกแบบแบบแยกส่วนกันอีกด้วย
ที่มา: carnewschina.com