หลังจากที่มีข่าวการพัฒนารุ่น EV ของ Denza Z9 GT เมื่อเดือนที่ผ่านมา ในเดือนพฤษภาคมนี้ BYD ต้นสังกัดของแบรนด์ Denza ก็ได้เปิดเผยภาพชุดแรกของ Z9 GT รุ่น PHEV ที่กำลังเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดยุโรปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) รายงานว่า BYD ได้ยื่นขอการรับรองตลาดสำหรับ Denza Z9 GT รุ่น PHEV โดยเปิดเผยรายละเอียดและรูปภาพของรุ่นการผลิต ซึ่งนั้นหมายความว่าตัวรถจะจำหน่ายทั้งในประเทศจีน และยุโรปตามแผนงานเดิมที่บริษัทวางไว้ ค่อนข้างชัดเจนว่าทำไมเวอร์ชัน PHEV ถึงปรากฏขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากเวอร์ชัน EV แม้ว่าจะเป็นปริศนา แต่บางทีเวอร์ชัน PHEV จะเปิดตัวช้ากว่า Z9 GT ที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมดเล็กน้อย
Denza Z9 GT PHEV จะมีขนาดที่แทบไม่ต่างจากรุ่น EV โดยจะมีขนาด 5180/1990/1500 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อยาว 3125 มิลลิเมตร ในขณะที่น้ำหนักตัวจะลดลงมาอยู่ที่ 2,740 กิโลกรัม ผู้ซื้อสามารถเลือกล้อขนาด 20 หรือ 21 นิ้วได้
แม้ว่าจะเป็น PHEV แต่ยังคงมีการตั้งค่ามอเตอร์ไฟฟ้าสามตัวเหมือนกับรุ่นที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด แต่กำลังสูงสุดของมอเตอร์แต่ละตัวจะลดลง สำหรับ PHEV ด้านหน้ามีมอเตอร์ TZ210XYD กำลังสูงสุด 200 แรงม้า (kW) ในขณะที่เพลาหลังมีมอเตอร์ TZ220XYAV สองตัว แต่ละตัวมีกำลังสูงสุด 220 แรงม้า (kW) แม้ว่าข้อมูลจะยังไม่เปิดเผยขนาดของแบตเตอรี่ แต่แน่นอนว่าจะต้องมาพร้อมกับแบตเตอรี่ blade จาก BYD เครื่องยนต์จะมีรหัส BYD479ZQA ขนาด 2.0 ลิตรเทอร์โบ ให้กำลัง 152 แรงม้า (kW) ตัวรถจะสามารถความเร็วสูงสุดได้ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งลดจากรุ่น EV ที่ทำได้ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Denza Z9 GT ยังไม่ชัดเจนนัก ว่าตัวรถจะมีรุ่นที่มีและไม่มี LIDAR หรือไม่ แต่จากข้อมูลเปิดเผยว่า ตัวรถจะมีรุ่นที่ติดตั้งเซนเซอร์ LIDAR 3 ตัวเป็นตัวเลือก แต่จากข้อมูลภาพประกอบแล้ว ตัวรถทุกรุ่นจะมีเซนเซอร์ LIDAR ติดตั้งบนหลังคาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมด้วยการกำหนดค่ากันชนที่แตกต่างกันสองแบบ ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมก็เป็นทางเลือกที่ลดความสูงลงเหลือ 1480 มิลลิเมตร Denza Z9 GT ยังมาพร้อมกับหลังคากระจกแบบพาโนราม่า และสปอยเลอร์หลังไฟฟ้า ที่ปรับความสูงได้เองอัตโนมัติตามความเร็ว
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ผู้เชี่ยวชาญมองว่าตัวรถ จะเปิดตัวอย่างเร็วที่สุดในเดือนพฤศจิกายนนี้สำหรับตลาดประเทศจีน ส่วนตลาดยุโรปนั้น คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกัน แต่จะพร้อมสำหรับการจำหน่ายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 เป็นต้นไป
ที่มา : carnewschina.com
