เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ทางค่าย BYD ได้เปิดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Seal 06 DM-i ที่กำลังใกล้จะเปิดตัว ในประเทศจีน รถคันนี้เคยเปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้วที่งาน Beijing Auto Show ปี 2024 คาดว่าจะเป็นเทคโนโลยี DM ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นที่ 5 ของ BYD และอาจจะเปิดตัวในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ด้วยราคาประมาณ 120,000 – 150,000 หยวน หรือประมาณราวๆ (613,016 – 752,542 บาท)
รถคันนี้เป็นรถเก๋งซีดานขนาดกลาง ขนาดของ BYD Seal 06 DM-i มีมิติตัวรถที่ ยาว/กว้าง/สูงที่ 4830/1875/1495 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อที่ 2790 มิลลิเมตร รถคันนี้อยู่ในรุ่นซี่รีย์ Ocean Series ของทาง BYD
ตามข้อมูลที่เปิดเผย BYD Seal 06 DM-i คาดว่าจะเปิดตัวทั้งหมด 5 รุ่น ตามมาตราฐาน CLTC สามารถชาร์จไฟวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าได้ 80 กม. และ 120 กม. รุ่นระยะทาง 80 กม. จะใช้ขอบล้อขนาด 17 นิ้ว หน้าจอควบคุมส่วนกลางแบบหมุนได้ขนาด 12.8 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการ DiLink ของ BYD แผงหน้าปัดขนาด 8.8 นิ้ว ระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย 6 ใบ ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ ระบบขับเคลื่อนแบบ VtoL สถานี ลำโพง 6 ตำแหน่ง พร้อมรีโมทคอนโทรล และระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง
รุ่นไฮเอนด์ชาร์จไฟวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าได้ 120 กม. มาพร้อมขอบล้อขนาด 18 นิ้ว, ชาร์จเร็ว DC 22 kWh, ชาร์จช้า AC 6.6 kWh, ที่ปัดน้ำฝนแบบตรวจจับฝน, กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ, ซันรูฟแบบพาโนรามา, ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง DiPilot ระดับ 2 (ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ และการตรวจจับจุดบอด), ถุงลมนิรภัยด้านข้างไกล, เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง, เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง, เบาะนั่งเป็นระบบระบายอากาศ/อุ่นด้านหน้า, มีระบบบันทึกการขับขี่บนรถ, หน้าจอควบคุมส่วนกลางแบบหมุนได้ขนาด 15.6 นิ้ว, ลำโพง 8 ตำแหน่ง, ไฟส่องสว่างโดยรอบแบบหลายสี, การชาร์จแบบไร้สาย 15 kWh, ระบบฟอกอากาศ PM2.5 และติดตั้งแท่นชาร์จขนาด 7 kWh มาให้ฟรี
กำลังจะมาจากระบบไฮบริด DM รุ่นที่ 5 ของ BYD ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้าที่จับคู่กับเกียร์ E-CVT เครื่องยนต์มีกำลังสูงสุด 74 kWh ในขณะที่มอเตอร์มีตัวเลือกกำลังสูงสุด 2 แบบคือ 120 kWhและ 160 kWh แบตเตอรี่เป็น Blade ของ BYD สองตัวจะมีความจุ 10.08 kWh และ 15.874 kWh บีวายดียังกล่าวว่าระบบไฮบริดเจเนอเรชันใหม่สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 2,000 กม.
ที่มา : carnewschina.com
