Skip to content
Home » เตรียมเปิดตัว All New Mitsubishi Xforce 1.6 ไฮบริด รถ SUV รุ่นใหม่ในไทย คาดราคาเข้าถึงง่าย!

เตรียมเปิดตัว All New Mitsubishi Xforce 1.6 ไฮบริด รถ SUV รุ่นใหม่ในไทย คาดราคาเข้าถึงง่าย!

ทางค่าย Mitsubishi ได้ทำการเปิดตัว All New Xforce รถ SUV รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ ในประเทศอินโดนีเซียเป็นที่แรกไปก่อนหน้านี้ เมื่อในช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมา และได้ทำการวางเป้าหมายให้เป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงลำใหม่ สำหรับการบุกตลาดอาเซี่ยน รวมไปถึงประเทศไทยเราด้วย โดยคาดว่าจะมาพร้อมกับขุมกำลัง 1.6 ลิตรไฮบริด ลูกเดียวกันกับ Xpander HEV ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้นั่นเอง

โดยตัวรถ All New Mitsubishi Xforce ถือได้ว่าเป็นรุ่นการผลิตจริงของรถ Mitsubishi XFC Concept (คอนเซ็ปท์) ที่โชว์ตัวก่อนหน้านี้ ทั้งในแง่ของการออกแบบภายนอกและภายใน โดยตัวรถจะมีขนาด 4390/1810/1660 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2650 มิลลิเมตร ซึ่งมีขนาดที่ใกล้เคียงกับ ASX/RVR ที่ปัจจุบันทำตลาดอยู่ในโซนยุโรป ซึ่งถือว่าเป็นรถ SUV ในพิกัดขนาดกลาง และเป็นคู่แข่งของ Toyota Corolla Cross และ Honda HR-V รวมไปถึง Mazda CX-30 โดยตรง

000000088037_6bbf5f0a_3a70_4ffa_9b0b_e5546b8e0c2e.jpeg

สำหรับองค์ประกอบภายในห้องโดยสารนั้น ประกอบไปด้วย หน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบสัมผัส และแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 8 นิ้วสำหรับคนขับ ซึ่งทั้งสองจอจะอยู่มีรอบเดียวกัน เบาะนั่งจะใช้วัสดุผ้า “mélange” ไฮไลท์อีกอย่างคือระบบเสียง Dynamic Sound Yamaha Premium ที่มีลำโพงไม่น้อยกว่า 8 ตัว

Mitsubishi-XForce-White-Pearl.png

จากการออกมาให้ข้อมูลของ Mitsubishi ได้ระบุไว้ว่าห้องโดยสาร 5 ที่นั่งนั้น จะเป็นหนึ่งในห้องโดยสารที่กว้างขวางและใช้งานได้จริงมากที่สุดในรถกลุ่มนี้ โดยได้รับประโยชน์จากช่องเก็บของมากมาย กล่องเก็บความเย็น เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับเอนได้ และที่เก็บสัมภาระแบบปรับแต่งได้ ห้องโดยสารยังได้รับแท่นชาร์จไร้สายพร้อมพอร์ต USB และที่วางสมาร์ทโฟนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ส่วนทางด้านขุมกำลังตัวรถ หากอ้างอิงจากเวอร์ชั่นอินโดนีเซีย จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 103 แรงม้า (hp) และแรงบิด 141 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังเพลาหน้าโดยเฉพาะผ่านกระปุกเกียร์อัตโนมัติ CVT แต่ในประเทศไทยเราคาดว่าจะมาพร้อมกับเครื่อง 1.6 ลิตรเบนซิน ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบไฮบริด ที่เน้นความแรงและการประหยัดน้ำมัน

แม้ว่าจะเป็นรุ่นที่ขับเคลื่อนล้อหน้า แต่ตัวรถมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ 4 โหมด Normal, Wet, Gravel และ Mud รวมไปถึงระบบ Active Yaw Control (AYC) และระยะห่างจากพื้นที่มากถึง 220 มิลลิเมตร ช่วยให้การขับขี่บนพื้นผิวที่ขรุขระและลื่น สามารถรับมือกับน้ำท่วมขัง ในทำนองเดียวกัน ระบบกันสะเทือนยังได้รับการปรับแต่งเพื่อความสะดวกสบายบนถนนลาดยางที่อาจจะไม่เรียบเนียนแบบ 100%

ส่วนในประเทศไทยเราจะมีการเปิดตัวกันในปี 2024 นี้ แต่จะเป็นช่วงไหนอย่างไรนั้น ต้องมารอติดตามกันต่อไป

รถใหม่