Nio ผู้ผลิตและพัฒนายานยนต์พลังงานใหม่จากประเทศจีน ออกมายืนยันว่า กำลังอยู่ในช่วงการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวแบตเตอรี่ยุคใหม่แบบ Semi-Solid State ที่จะมีความจุ 150 kWh ซึ่งจะเป็นแบตเตอรี่ที่มีความจุมากที่สุดเท่าที่เคยผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศจีน
ในตอนแรก Nio วางเป้าหมายในการเปิดตัวแบตเตอรี่แบบ Semi-Solid State ในปี 2022 แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้เกิดการล่าช้าออกไป แต่ในที่สุดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็มาถึง โดย William Li ซีอีโอของ Nio ได้ทำการทดสอบความทนทานแบบถ่ายทอดสดในเดือนธันวาคมด้วย Nio ET7 ตลอดระยะเวลาการขับขี่ 14 ชั่วโมงด้วยความเร็วเฉลี่ย 83.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนระยะทางกว่า 1,044 กิโลเมตร โดยไม่มีการชาร์จ
ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของบริษัท ผู้ครอบครองรถแบรนด์ Nio ทุกคนจะได้รับประโยชน์จากแบตเตอรี่ใหม่ โดยสามารถนำเอารถปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ ไปเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่แบบ Semi-Solid State ความจุ 150 kWh ได้ โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อย โดยผู้ที่มีแบตเตอรี่ความจุ 70/75 kWh จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 150 หยวน หรือราวๆ 770 บาท ต่อวัน ในการเช่าแบตเตอรี่ แต่สำหรับผู้ที่ใช้งานแบตเตอรี่ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่า 100 kWh จะมีค่าใช้จ่ายที่ลลดลงเหลือเพียง 100 หยวน หรือราวๆ 520 บาท ต่อการเช่าใช้งาน 1 วัน
จากข้อมูลของ Nio พบว่าชุดแบตเตอรี่ขนาด 150 kWh เป็นแบตเตอรี่ CTP (cell to pack) แบบซอฟต์แพ็กแรกของโลกที่ไม่มีการระบายความร้อน แบตเตอรี่มีสถานะกึ่งแข็งและมีความหนาแน่นของพลังงานสูงถึง 360 Wh/kg ซึ่งเป็นความหนาแน่นพลังงานสูงสุดสำหรับบรรจุภัณฑ์ใดๆ ที่ผลิตจำนวนมากในประเทศจีนในช่วงเวลาปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้มีการอ้างว่าราคาของชุดแบตเตอรี่ นั้นแพงมาก ใกล้เคียงกับรถยนต์ Nio ET5 เชื่อกันว่านี่คือสาเหตุที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ใดของบริษัท ที่จะใช้แบตเตอรี่แบบนี้บนตัวรถเพื่อเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้บริษัทออกนโยบายการเช่าแบบรายวัน เพื่อให้ผู้บริโภคที่ต้องการเดินทางไกล สามารถใช้งานได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
ในส่วนของการเปลี่ยนสลับแบตเตอรี่นั้น ถือว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่คุ้มค่ามาก เพราะการพัฒนาแพลตฟอร์มแบบ modular ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนต่างๆ บนตัวรถได้อย่างง่ายดาย โดยทางผู้ผลิตได้บอกว่า การเปลี่ยนแบตเตอรี่จากแบบมาตรฐาน ไปเป็นแบบ Semi-Solid State ความจุ 150 kWh จะใช้เวลาเพียง 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น (โดยช่างผู้ชำนาญ) และสามารถทำได้ผ่านตัวแทนและศูนย์ซ่อมบำรุงของแบรนด์ ที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศจีน มากกว่า 2,000 สาขา
ที่มา : carnewschina.com