ล่าสุด BYD Han DM-i โฉมปี 2025 ได้มาถึงตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว และได้รับการยืนยันแล้วว่าจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 9 กันยายนนี้ ที่ประเทศจีนโดยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถรุ่นใหม่นี้จะเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของปี 2025 มาพร้อมระบบส่งกำลัง DM 5.0 รุ่นใหม่ พร้อมด้วยได้รับการติดตั้งระบบกันสะเทือน DiSus-C และระบบ DiPilot 300 ระบบขับขี่อัจฉริยะ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงแบบเฉพาะที่พัฒนาโดยทาง BYD ซึ่งทาง Lu Tian ผู้จัดการทั่วไปของแผนกขาย BYD Dynasty ได้ให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการเอาไว้เมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา โดยได้มีการเผยแพร่รูปภาพรถออกมาให้ชมอย่างเป็นทางการพร้อมให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวรถผ่านทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย
โดย BYD Han DM-i โฉมปี 2025 จะดูแตกต่างจากรถซีดานรุ่น PHEV รุ่นก่อนๆ ถึงแม้ว่าจะใช้แพลตฟอร์มมาจากรถคันเดียวกันก็ตาม ซึ่งการออกแบบกระจังหน้านั้นจะยังคงสอดคล้องกับรุ่นที่เป็นไฟฟ้าล้วนแบบ 100% มีข้อมูลระบุว่าผู้ซื้อสามารถเลือกใช้ชุดแต่งมาปรับให้ใช้กับรถรุ่นใหม่นี้ได้อีกด้วย และรถ Han DM-i ยังมาพร้อมกับสีใหม่แปลกตา ด้วยสีเทาเว่ยหยาง ที่มีสไตล์แบบเรียบหรู ตัดตัวอักษรคำว่า Build Your Dreams ออก แต่จะมาพร้อมการออกแบบไฟท้ายแบบทะลุเชื่อมต่อกันเป็นแนวยาวอันเป็นเอกลักษณ์ของรถจีน
BYD Han DM-i เวอร์ชันต่างๆ ในปี 2025 จะติดตั้งระบบ Eye of the Gods DiPilot 300 ของทาง BYD พร้อมด้วยระบบ Lidar ซึ่งจะทำให้รถมีความสามารถในการขับขี่แบบอัจฉริยะในระดับสูง นอกจากนี้ยังจะติดตั้งระบบกันสะเทือน DiSus-C ซึ่งระบบนี้คือระบบเวอร์ชันพื้นฐานของทางค่าย BYD และเป็นระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะที่ทำหน้าที่คล้ายกับโช้คอัพแบบแปรผันของ CDC มีรายงานว่ารถคันนี้ยังมีระบบกันสะเทือนแบบห้าลิงค์แบบใหม่ติดตั้งไว้ที่ด้านหลังอีกด้วย
ขนาดมิติตัวรถของ BYD Han DM-i ยังคงเหมือนเดิมคือ 4975, 1910 และ 1495 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,920 มิลลิเมตร ในโฉมรุ่นปี 2025 จะมีน้ำหนักลดลง 10 กิโลกรัม โดยสุทธิอยู่ที่ 1,860 กิโลกรัม
จากภาพถ่ายที่ถ่ายโดยตัวแทนจำหน่ายของจีน เผยให้เห็นภายในของรถจะมีความคล้ายกับ Han รุ่นก่อนหน้า โดยมีหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบหมุนได้ขนาด 15.6 นิ้ว และคอนโซลกลางเป็นวัสดุคล้ายพลาสติกเปียโนแบล็คสีดำ
BYD Han DM-i โฉมปี 2025 จะใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ คาดว่าจะมาพร้อมระบบส่งกำลังสูงสุดที่ 115 kW หรือ (154 แรงม้า) จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 268 แรงม้า โดยทางฝ่ายเทคนิคของ BYD ระบุว่ารุ่นที่จำหน่ายจะให้ระยะทางที่วิ่งได้ 75, 112 และ 160 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ เมื่อวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ในขณะเดียวกัน พวกเขาอ้างว่าอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงจะอยู่ที่ 3.9 ลิตร/100 กิโลเมตร โดยใช้มาตราฐานการวัดค่าจาก NEDC แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลระบุไว้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม Lu Tian กล่าวต่อไปว่าอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเริ่มต้นที่ 3 และคาดว่าอาจจะต่ำกว่า 3.9 ลิตร/100 กิโลเมตร ก็เป็นได้
ที่มา: carnewschina.com
